สวัสดีครับทุกท่าน หลังจากที่ไปประชุมร่วมกับ Venture capital ของ ต่างประเทศมา The Netherlands (Head office) และยังมีสาขา ตัวแทนอยู่เกือบทั่วโลก แน่นอนว่า ถ้าอยากรู้จัก Venture capital ติดต่อทีมงาน Admin ได้เลยนะครับ ผมจะมาแชร์ ข้อมูลคร่าวๆ ให้ทราบกันนะครับ ว่า Venture capital (VC) คืออะไร? ร่วมงานหาผู้ร่วมทุนได้อย่างไร ? ในมุมมองของ Thaiangel investors นะครับ ข้อมูลเพิ่มเติมหาอ่านได้ตามทั่วไปครับ
- Venture capital (VC) พูดกันภาษาง่ายๆ ให้เข้าใจคือ บริษัท หรือ องค์กร หรือ กองทุน ที่สนใจร่วมลงทุนกับธุรกิจต่างๆ ที่น่าสนใจ เช่น ธุรกิจด้านพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ , ธุรกิจด้านพลังงาน , ธุรกิจด้านเครื่องสำอาง สุขภาพ หรือ ธุรกิจด้าน Tech startup และหรือธุรกิจอื่นๆ ที่น่าสนใจ ธุรกิจสัมปทาน นักลงทุน จะเป็นกลุ่มบริษัทใหญ่ๆ ที่มีชื่อเสียง ถ้าเอ่ยชื่อ นักธุรกิจทุกท่านก็คงรู้จักแน่นอน และหรือเป็นกลุ่ม investment bank
- Venture capital ต่างจาก Angel investors คือ เม็ดเงินลงทุนสูงกว่า หลายเท่าตัว เช่น เริ่มต้นที่ Project Vale 100MUSD ระเบียบเงื่อนไข ต่างๆ ในการร่วมลงทุน ค่อนข้างละเอียดและหลายขั้นตอนเนื่องจาก เป็นรูปแบบองค์กร มีหลายส่วน หลายฝ่ายในการพิจารณา งานร่วมลงทุนและเงื่อนไขการใช้ทุน จะมีทีมงานของ VC องค์กรช่วยดูแล ตามแผน Use of fund ในแต่ละโครงการ
- ระยะเวลาในการดีลงานกับ Venture capital ขึ้นอยู่กับความน่าสนใจของแต่ละโครงการ ส่วนมากจะโฟกัสที่ IRR ยิ่ง IRR มากเท่าไหร่ ระยะเวลาในการร่วมทุนก็เพิ่มขึ้นเท่านั้น
- ข้อดีการมี VC เข้ามาร่วมทุน คือ เราได้ Know how เข้ามาด้วย ไม่ใช่ได้แค่เงินลงทุนอย่างเดียว และเราได้ Partner ที่ใหญ่โต เพียงพอที่จะช่วยธุรกิจเราได้ในหลายๆ ส่วนที่เราขาด เพื่อให้ธุรกิจของเราเติบโตอย่างเป็นระบบและมืออาชีพ เนื่องจากมีทีมงานมืออาชีพเข้ามาช่วยเราในส่วนที่เราขาด
- VC จะช่วยพลักดันธุรกิจเราให้เติบโต เพื่อเข้า IPO ในอนาคต 4-5 ปี นั่นคือ เป้าหมายของ VC ที่จะเข้ามาร่วมทุนในแต่ละธุรกิจของเรา ยกตัวอย่างให้เห็นภาพ เช่น ธุรกิจที่ VC เข้าร่วมลงทุน และ ผลตอบแทน –
จะลงทุนใน ธุรกิจสตาร์ทอัพ ที่ความเสี่ยงสูง โดยการลงทุนเป็นการซื้อสัดส่วนในการเป็นเจ้าของสตาร์ทอัพ เพื่อหวังการเติบโตเเบบคาดไม่ถึงของสตาร์ทอัพที่มีโอกาสได้ผลตอบเเทนสูงกว่าการลงทุนทั่วไป
บางครั้งได้ผลตอบเเทนมากถึง 50,500,1000 เท่า จากเงินลงทุน ขึ้นอยู่กับ มูลค่าบริษัทในเเต่ละช่วงเวลา โดยผู้บริหารกองทุน VC มักจะเป็นคนที่มีความรู้,ประสบการณ์ เเละส่วนใหญ่ทำสตาร์ทอัพจนประสบความสำเร็จมาก่อน โดยผู้ลงทุนจะได้ผลตอบเเทน เมื่อสตาร์ทอัพ exit เท่านั้น เเละไม่สามารถขอเงินเงินคืนก่อนได้ โดยการ exit สามารถทำได้โดย
– Acquisition (M&A): ขอเสนอซื้อทั้งบริษัทจากบริษัทอื่นเพื่อกลยุทธ์ทางธุรกิจ ตัวอย่างเช่น Facebook ซื้อ Instagram เพื่อครองตลาด Social Media เเละเเข่งขันกับ SnapChat
-IPO : การที่สตาร์ทอัพมีรายได้เเละมูลค่าบริษัทที่มากพอจนสามารถจดทะเบียนเข้าตลาดหุ้น ทำให้นักลงทุนสามารถขายหุ้นเพื่อทำกำไรได้ โดยเฉลี่ยเเล้วสตาร์ทอัพใช้เวลาประมาณ 5-7 ปีในการพัฒนาธุรกิจกว่าจะเข้าตลาดหลักทรัพย์
-Purchase Share: การขอซื้อหุ้นจากนักลงทุนกลุ่มอื่นหรือการขอซื้อหุ้นกลับจากสตาร์ทอัพ วิธีนี้ไม่ค่อยเห็นบ่อยนักในวงการสตาร์ทอัพ
ตัวอย่างความสำเร็จของ VC
เป็นที่รู้กันว่า Venture Capital เป็นหนึ่งธุรกิจที่ร้อนเเรงตั้งเเต่ยุคเริ่มต้นอินเทอร์เน็ตเเละสตาร์ทอัพและ SoftBank เป็นบริษัท VC ที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในการลงทุนใน Alibaba ด้วยมูลค่าลงทุน $20 ล้านดอลลาร์ เมื่อประมาณ14 ปีที่เเล้ว โดย Alibaba ได้ IPO เป็นที่เรียบร้อย เเละ SoftBank ได้ผลตอบเเทนมากกว่า 2,800 เท่าจากการลงทุนในวันนั้น (ประมาณ $56,000 ล้านดอลลาร์)
อีกบริษัทคือ Andreessen Horowitz ระดมทุนกับ Instagram เป็นรายเเรก ด้วยเงิน $250,000 ดอลลาร์ ในปี 2010 Instagram ถูก Facebook ซื้อไปในปี 2012 ด้วยมูลค่า $1 พันล้านดอลลาร์ โดย VC ได้ผลตอบเเทนมากถึง 312 เท่าในระยะเวลาไม่เกิน 2 ปี จะเห็นได้ว่าการลงทุนในสตาร์ทอัพมีโอกาสทำกำไรที่สูงเเบบคาดไม่ถึง เเต่มันก็มาพร้อมกับความเสี่ยงที่สูงมาก โดยปกติสตาร์ทอัพล้มเหลวมากถึง 90%
- ดังนั้นถ้าธุรกิจไหน น่าสนใจ หรืออยากจะให้ทีมงาน Admin พิจารณาเพื่อนำเสนอให้กับ VC ก็สามารถติดต่อได้ที่ทีมงาน admin ได้เลยนะครับ ทุกคำถามมีคำตอบ ให้กับทุกท่านและทุกธุรกิจ (VC จะคุยกับธุรกิจที่มูลค่า 200 ล้านบาท ขึ้นไปนะครับ)